การวัดแสงในห้องสตูดิโอ
การสร้างสรรค์ผลงานที่สวยงามเกิดจากแสงที่ตกไปยังตัววัตถุตามที่ผู้ถ่ายอยากจะได้เพื่อในไปใช้ประโยชน์ การควบคุมปริมาณแสงจึงเป็นสิ่งสำคัญมากในการถ่ายภาพในสตูดิโอ โดยระบบวัดแสงแบ่งเป็น
1.การวัดแสงสะท้อน
ระบบวัดแสงแบบนี้คล้ายกับระบบวัดแสงภายในตัวกล้อง โดยอาศัยหลักการที่แสงตกกระทบวัตถุแล้วสะท้อนเข้าสู่ตาหรือกล้องถ่ายภาพ การวัดจะหันส่วนที่เป็นที่วัดสีขาวขุ่นในเครื่องวัดไปยังวัตถุเพื่อรับแสงที่สะท้อนจากวัตถุ สำหรับการวัดแสงสะท้อน เครื่องจะอ่านค่าแสงเป็นสีเทา 18 % หรือเทากลาง แต่การวัดแสงแบบนี้จะเกิดปัญหาเมื่อค่าความเข้มของแสงแตกต่างกัน เครื่องจะไม่สามารถวัดได้ จะต้องควบคุมแสงบริเวณใจบริเวณหนึ่งก่อน
2. การวัดแสงตกกระทบ
หลักการทำงานจะคล้ายกับระบบวัดแสงแบบสะท้อน แต่จะต่างกันตรงที่วิธีการวางตำแหน่งเครื่องและส่วนหัวอ่านค่าแสง วางเครื่องวัดแสงไว้ตรงวัตถุที่จะวัด โดยหันหัวอ่านค่าไปหาเลนส์หรือแหล่งกำเนิดแสง ข้อด้อยคือ ไม่สามารถวััดแสงตกกระทบเมื่อวัตถุอยู่ไกลมาก
3.การวัดแสงเฉพาะจุด
การอ่านค่าความเข้มของแสงที่สะท้อนจากวัตถุในบริเวณที่ละเอียดที่สุดในภาพ โดยปกติเครื่องจะวัดได้ประมาณ 30-50 องศาแต่แบบเฉพาะจุดจะสามารถอ่านค่าแสงที่ต่างกันในมุมที่แคบมากประมาณ 1 องศา ข้อดีคือ สามารถวัดในระยะที่ห่างได้ ไม่จำเป็นต้องอยู่ใกล้วัตถุ ข้อเสียคือ การอ่านค่าอาจจะผิดพลาดเพราะเครื่องอ่านได้ในบริเวณที่เล็กมาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น